ตารางชน งานแน่น เวลานอนแทบไม่มี ลองให้ ‘To Do List’ ช่วยคุณดู by Stretch me

“งานยุ่งจนแทบไม่ได้นอน” “ไม่ว่าง ไว้วันอื่นได้ไหม” คุณเคยพูดประโยคนี้กับใครบ้างหรือเปล่า ถ้าเคยแสดงว่าคุณอาจกำลังต้องการเครื่องมือมาช่วยจัดการชีวิตแล้วล่ะ!

ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่เราต่างก็ต้องรีบเร่ง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ทำให้ทุกๆ วันมีเรื่องมากมายที่มนุษย์วัยทำงานต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำวันที่ต้องสะสาง แผนงานที่ต้องส่งให้เจ้านาย เรื่องส่วนตัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ทำให้การทำงานกับชีวิตส่วนตัวแทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

คุณเองก็เป็นหนึ่งคนในจำนวนนั้นหรือเปล่าที่รู้สึกว่าแต่ละวันช่างวุ่นวาย ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน หรือไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำชนิดค้างคามาเป็นแรมปี นั่นแปลว่าอาจจะถึงเวลาที่คุณต้องลองสร้าง ‘To Do List’ หรือลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันแล้ว เพราะนี่คือเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบสิ่งที่จำเป็นต้องทำและตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นทิ้งไป

 

ลำดับความสำคัญ เลือกทำสิ่งจำเป็นที่ทำได้ก่อน

ในแต่ละวันเราไม่ควรกำหนดรายการ ‘สิ่งที่ต้องทำ’ มากกว่าสามข้อ การตั้งเป้าหมายต่อวันในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความสับสน มีสมาธิมากขึ้น แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดตกอะไรไป คุณสามารถจดงานอื่นๆ ที่เข้ามาตลอดทั้งวันในรายการที่แยกต่างหาก โดยปรับความสำคัญได้หากจำเป็นจริงๆ การมีวินัยต่อลิสต์ที่ต้องทำสำคัญก็จริง แต่ทุกอย่างก็สามารถยืดหยุ่นได้

นิตยสารฟอร์บส์ได้ยกตัวอย่างการทำ To Do List ของบุคคลที่ประสบความสำเร็จหลายคน ที่แสดงให้เห็นว่าการตั้งเป้าหมายสิ่งที่ต้องทำเพียงข้อเดียวที่จำเป็นจริงๆ ต่อวัน มีคุณประโยชน์มหาศาล เพียงตั้งคำถามกับตัวเองง่ายๆ ว่า “หากสามารถทำสิ่งเดียวที่จะช่วยให้งานประสบความสำเร็จ คุณจะเลือกทำอะไร?” และตั้งสิ่งนั้นเป็นอันดับหนึ่งบนลิสต์ ทำให้สำเร็จตามเป้าหมายอย่างมีวินัย แล้วค่อยทำสิ่งอื่นที่เข้ามาในแต่ละวัน

 

มีช่วงเวลาผ่อนคลาย

เมื่อเราลำดับความสำคัญได้แล้ว ก็จะมีเวลาเหลือระหว่างวัน แม้จะเป็นเวลาเล็กน้อย อาจลองลุกขึ้นยืดเหยียดจากเก้าอี้สำนักงาน ออกมาเดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้มีช่วงเวลาพัก เพราะสมองของมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานเต็มเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน วิธีที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นการถอยออกมาหยุดพัก ทำให้กลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น

การตั้งเวลาพักให้ตัวเองในทุกวันจะเป็นวิธีที่ทำให้เราไม่ลืมตัวนั่งทำงานจนเสียสุขภาพ พลังงานหดหาย และควรมีกำหนดเวลาไปพบปะกับกับเพื่อน ทำงานอดิเรก หรือให้รางวัลกับตัวเองโดยการไปยืดเหยียดบ้าง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างชั่วโมงทำงานกับชีวิตส่วนตัว

 

อย่าละเลยการนอนหลับ

คนจำนวนมากเลือกที่จะตัดเวลานอนเพื่อทำงานให้มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ก็จำเป็นต้องนอนหลับให้เพียงพอ ไม่เพียงการนอนหลับยาวเท่านั้น ลำพังการงีบหลับเป็นเวลาสั้นๆ ก็เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อยู่ในตัวของมันเองเหมือนกัน ในการวิจัยของ University of Hertfordshire แสดงให้เห็นว่า การงีบหลับไม่เกิน 30 นาที ช่วยทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น ทำงานได้มากขึ้น และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้นอีก เพียงหลบไปงีบสักงีบหนึ่ง

 

เติมการออกกำลังกายเข้าไปในลิสต์

ในบางช่วงที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง อาจทำให้ร่างกายของเราเกิดความรู้สึกเซื่องซึมขึ้นมาได้ การออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยจะช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีพลังงานมากขึ้น ยังช่วยลดความเครียดช่วยและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ลดความเสี่ยงการเป็นออฟฟิศซินโดรม แม้ว่าคุณจะไม่มีเวลามากพอที่จะเข้ายิมเพื่อออกกำลังกายอย่างจริงจัง ก็อาจลองแบ่งเวลาทำท่าบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างง่ายๆ เป็นช่วงๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง

ยกตัวอย่างเช่่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อลำคอ ที่สามารถทำได้แม้จะนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ด้วยการตั้งลำตัวตรงในท่ายืนหรือนั่ง ก้มหน้าคางชิดอก ใช้แขนขวาจับขมับด้านซ้ายออกแรงดึงไปยังทิศตรงกันข้าม ให้กล้ามเนื้อคอด้านหลังรู้สึกตึง ค้างไว้ราว 30 วินาที จึงสลับไปทำอีกข้างหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดเกร็งคอที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานได้ …