Office Syndrome อาการนี้ใครๆ ก็เป็นได้ไม่ใช่แค่พนักงานออฟฟิศ

ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรที่ไหนก็ตาม หากคุณนั่งจดจ่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะพนักงานออฟฟิศ กราฟฟิกดีไซเนอร์ นักเขียน ฟรีแลนซ์หรือพนักงานประจำ Office Syndrome ก็อาจมาเยือนคุณได้

Office Syndrome คืออาการปวดร้าวที่บ่า ไหล่ สะบัก เกิดจากการนั่งหลังค้อมทำงานทั้งวัน การโก่งหลังเป็นเวลานานๆ ยังส่งผลทำให้เกิดการกดอัดของกระดูกสันหลัง ที่มีผลต่อเนื่องไปยังหมอนรองกระดูก โดยเฉพาะสันหลังส่วนล่าง จนในระยะยาวอาจเกิดอาการอักเสบได้

อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้ไม่ยากหากขาดการยืดเหยียด เราลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยการหมั่นยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่หดเกร็งให้ผ่อนคลายด้วยตัวเองในระหว่างทำงาน เป็นการรีเซ็ตร่างกายกลับมาและทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปด้วยในตัว เพราะเราต้องอาศัยการโฟกัสที่ลมหายใจลึกและยาวต่อเนื่อง เพื่อให้สมองผ่อนคลายและสั่งงานให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

ต่อไปนี้คือท่ายืดคลายง่ายๆ ที่คุณทำเองได้เบื้องต้น แต่ถ้าลองทำแล้วยังดีขึ้นไม่พอ ก็เป็นเพราะร่างกายเรายังมือกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ และมัดที่อยู่ลึกเข้าไป ที่การยืดเหยียดด้วยตัวเองจัดการไม่ได้ ต้องอาศัยการยืดที่ซับซ้อนขึ้น จึงควรให้เธอร์ราพิสผู้เชี่ยวชาญของ Stretch Me เข้ามาช่วยจัดท่ายืดเพื่อบรรเทาอาการ Office Syndrome ให้ลดลงและลดความเสี่ยงที่จะทำให้อาการกลับมา

ท่าที่ 1 Spine Stretch

ขยับกระดูกสันหลังให้ผ่อนคลายด้วยการนั่งหลังตรง กางเท้าให้เข่ากว้างเท่ากับช่วงระยะสะโพกมือสองข้างวางเบาๆ ที่หัวเข่า หายใจเข้า แอ่นหลัง บีบสะบัก เปิดแผ่นอกเชยคางขึ้นเล็กน้อย หายใจออกเก็บคางใกล้อกโค้งโก่งหลัง ทำซ้ำ 5 รอบ

ท่าที่ 2 Side Stretch

นั่งหลังตรง วาดแขนขวาขึ้นแนบข้างใบหู งอข้อศอกเหมือนจะเอาฝ่ามือไปแตะที่ตรงกลางหลัง ใช้มือซ้ายดึงที่ข้อศอกขวาดึงแขนขวาไปหลังศีรษะ หายใจเข้ายืดตัวขึ้น หายใจออกเอนลำตัวไปทางได้ซ้าย เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อข้างร่างกายไปพร้อมกับการขยับสันหลังในทิศทางงเอียงด้านข้าง และคลายบ่าไหล่สะบักไปด้วยในตัว ค้าง 5 ลมหายใจแล้วสลับข้าง

ท่าที่ 3 Spine Twist

นั่งหลังตรง กางขาห่างเท่ากับช่วงข้อสะโพก มือขวาวางประคองด้านหลังสะโพก มือซ้ายวางไว้ที่ด้านนอกเข่าขวา หายใจเขายืดหลังให้ยาว หายใจออกบิดลำตัวไปทางด้านขวา ค้าง 5 ลมหายใจแล้วสลับข้าง การบิดจะทำให้สันหลังคลายตัวมากที่สุดหลังจากบิดเสร็จ ในขณะเดียวกันก็ได้ยืดกล้ามเนื้อบริเวณสีข้างร่างกายในอีกทิศทางหนึ่ง

ท่าที่ 4 Back & Shoulder Stretch

นั่งหลังตรงยกแขนสองข้างขึ้น แล้วเหวี่ยงแขนขวาใต้แขนซ้าย พันข้อศอก พันข้อมือ ประสานนิ้วมือเข้าหากันหันนิ้วโป้งเข้าหาใบหน้า แล้วยกแขนขึ้นสูงเหมือนจะเอากั้มปั้นไปแตะเพดาน ค้างท่า 5 ลมหายใจแล้วสลับข้างท่านี้ช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อบ่าไหล่สะบักได้ดี

ท่าที่ 5 Chest & Shoulder Stretch

กระเถิบออกมานั่งใกล้ขอบเก้าอี้ด้านหน้าให้เหลือพื้นที่ทางด้านหลัง นั่งหลังตรง ส่งแขนสองข้างมาทางด้านหลังประสานมือเข้าหากัน บีบสะบักเปิดแผ่นอกทางด้านหน้า แล้วออกแรงดึงกำปั้นไปทางด้านหลัง พร้อมกับแอ่นหลังและเชยคางเล็กน้อย เป็นการยืดกล้ามเนื้อแผ่นอก หัวไหล่ด้านหน้า และลำตัวทางด้านหน้าไปพร้อมๆ กันคลายจากการนั่งหลังค่อมเป็นเวลานาน ค้างท่าสัก 5 ลมหายใจ

ท่าที่ 6 Hip Stretch

นั่งกางขาห่างเท่ากับช่วงข้อสะโพก แล้วยกข้อเท้าขวาพาดบนต้นขาซ้าย ใช้มือซ้ายจับข้อเท้าขวา แล้วใช้มือขวาออกแรงผลักขาขวาลงเบาๆ เพื่อคลายกล้ามโคนเนื้อสะโพกมัดใน และยืดกล้ามเนื้อขาด้านในไปด้วย ค้าง 5 ลมเช่นกันแล้วสลับข้าง

ท่าที่ 7 Front Body Stretch

มั่นใจว่าเก้าอี้จะไม่ขยับก่อน แล้วเขยิบลำตัวมานั่งที่ขอบเก้าอี้ มือสองข้างจับขอบเก้าอี้โดยหันปลายนิ้วมืออกด้านนอก เดินเท้าไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ได้ เก็บขาชิดเท้าชิด แล้วออกแรงมือผลักเก้าอี้ กดเท้าลงพื้นให้แน่น เกร็งก้นและหน้าท้อง แล้วยกสะโพกยกลำตัวขึ้น ค้าง 5 ลมหายใจ เพื่อยืดร่างกายส่วนหน้าทั้งหมด คลายจากการนั่งพับตัวโก่งหลังงอมาทั้งวัน

ท่าที่ 8 Back Body Stretch

ลุกขึ้นมายืนด้านหลังเก้าอี้ ยืนห่างจากเก้าอี้พอสมควร กางเท้ากว้างเท่าช่วงสะโพก หายใจเข้ายืดหลังให้ยาวแล้วหายใจออกพับลำตัวลงจากข้อต่อสะโพกโดยเก็บหลังตรงตลอดเวลา ส่งมือจับที่พนักเก้าอี้ จัดระเบียบร่างกายให้แขนและหลังเหยียดตรง สะโพกกับข้อเท้าอยู่ในแนวเดียวกัน แล้วรีเซ็ตสันหลังให้ตรงตามธรรมชาติคือหลังล่างแอ่นตัวเล็กน้อย หลังกลางช่วงสะบักโก่งเล็กนิด เก็บคอยาวไม่เกร็งคอบ่าไหล่ ค้าง 5 ลมหายใจ

 

 ถือเป็นการรีเซ็ตสันหลังและยืดกล้ามเนื้อลำตัวช่วงบนของร่างกาย เป็นอันพร้อมกลับมาทำงาน