5 แอพพลิเคชั่นสุดปังแนะนำโดย Stretch me

 

แอพพลิเคชั่นปังๆสายเฮลท์ตี้

ยุคนี้แล้ว สมาร์ทโฟนถือเป็นอุปกรณ์ติดตัวที่แทบจะขาดไม่ได้ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ขนาดในช่วงเวลาออกกำลังกาย ขณะที่อยู่ในยิมลองสังเกตคนรอบข้างดูว่าแม้จะวิ่งเหงื่อไหล ยกเวทเคร่งเครียด แต่ทุกคนต่างก็เอาสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ตัวไม่ห่างเลย ซึ่งนอกจากเอาไว้ติดต่อฉุกเฉินหรือฟังเพลงแล้ว เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนให้เป็นประโยชน์กับชีวิตได้มากมาย เพียงแค่มีแอพพลิเคชั่นเหล่านี้

 

 

1.Nike+Training Club

เริ่มที่แอปยอดฮิตของนักวิ่งโดยเฉพาะสายวิ่งเอาท์ดอร์ เพราะมันสามารถเชื่อมต่อกับรองเท้ารุ่นที่มีเซ็นเซอร์เคลื่อนไหวของ Nike ได้ เรียกว่าล้ำสุดๆ นอกจากนี้มันยังช่วยดูแลเรื่องการออกกำลังกาย โดยออกแบบมาเพื่อรองรับคนอยากลดน้ำหนักและหุ่นดีด้วยรูปแบบการออกกำลังกายกว่า 100 รูปแบบ รวมไปถึงมีตารางการออกกำลังกายที่ได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญของ Nike หรือจะเลือกออกกำลังกายตามเซ็ตของนักกีฬาระดับโลกก็ได้ถ้าคุณชอบความท้าทาย

 

2.Strava

แอปพลิเคชันนี้จะตอบโจทย์ชาวสองล้อนักปั่นอย่างแท้จริง เพราะมันจะช่วยเก็บสถิติรายละเอียดระหว่างการปั่น ตั้งแต่ความเร็ว เส้นทาง และอีกมากมาย โดยที่หลังจากนั้นมันจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของเรา เพื่อออกแบบวิธีการออกกำลังกายของเราให้ดียิ่งขึ้น แถมมีหน้า Feed ที่สามารถแชร์เรื่องราวให้เพื่อนเห็นว่าเราไปปั่นจักรยานที่ไหนมาด้วย

 

3.Lean Body with Lee Labrada

สำหรับผู้ที่หลงใหลการสร้างกล้ามเนื้อ ก็น่าจะถูกใจแอปพลิเคชันนี้แบบสุดๆ เพราะมันจะแนะนำทั้งตารางการออกกำลังกาย การกินอาหาร รวมทั้งโปรแกรมการดูแลตัวเองให้ได้ผล ภายใน 12 สัปดาห์จากเทรนเนอร์ชื่อดังอย่าง Lee Labrada อดีตนักเพาะกายจากประเทศคิวบา โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเราไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว

 

4.8fit Workouts & Meal Planner

หนุ่มสาวคนไหนไม่มีเวลา ก็สามารถออกกำลังกายแบบง่ายๆ ได้ที่บ้าน ด้วยตัวช่วยจากแอปพลิเคชันนี้ ที่สามารถวางตารางการออกกำลังกายและแผนการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเราสามารถตั้งค่ารายละเอียดว่าเรามีเป้าหมายอย่างไรในการใช้แอปพลิเคชันได้ด้วย ในส่วนของฟังก์ชันแอปฯ นี้จะสอนท่าออกกำลังกายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนด้วยภาพ วิดีโอ และตัวจับเวลา ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกโหมดออกกำลังกายที่เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ โดยใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีต่อวันและไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษอะไรให้วุ่นวาย

 

5.The Mindfulness

อ่านถึงแอพนี้แล้วอย่าเพิ่งงง จริงๆ แล้วการทำสมาธิมีประโยชน์ต่อการออกกำลังกายอย่างมาก เพราะว่าสมาธิจะช่วยให้เราพัฒนาท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้เรารู้จักกำหนดลมหายใจซึ่งจะมีผลกับการสร้างกล้ามเนื้อระหว่างออกกำลังกาย แถมยังทำให้โฟกัสระหว่างออกกำลังกายได้มากขึ้นด้วย ซึ่งแอพพลิเคชัน  Mindfulness นี้ จะค่อยๆ ให้เราฝึกทำสมาธิสั้นๆ ตั้งแต่สามนาที ไปจนถึงสามสิบนาทีเลยทีเดียว และจะมี Notification คอยเตือนเราให้ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นประจำด้วย