ยุคนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน ทุกคนต้องพยายามพัฒนาตัวเอง หลายคนคิดว่าต้องใช้วิธียากๆ เช่น คร่ำเคร่งอ่านหนังสือ หรือลงคอร์สเรียนกีฬา แต่เชื่อไหมว่ามีวิธีสบายๆ ในการพัฒนาตัวเองให้รอบด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจอยู่หลายวิธี

 

1. หางานอดิเรกที่ชอบ

งานอดิเรกช่วยได้เสมอ ไม่ว่าจะเครียดจากงาน ความสร้างสรรค์หดหาย หรือไม่สบายใจในเรื่องอะไรก็ตาม คนเราควรมีงานอดิเรกอย่างน้อยสักหนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียว เช่น การทำอาหาร แต่งสวน ถักนิตติง หรือ กิจกรรมที่ต้องมีกลุ่มแก๊ง เช่น เล่นบอร์ดเกม หมากรุก หรือ เล่นกีฬาที่เป็นทีม

งานอดิเรกนอกจากจะเป็นพื้นที่ให้เราได้พักเรื่องงานแล้ว ยังช่วยเติมความสามารถเฉพาะตัวด้วย อย่างแรกคือความคิดสร้างสรรค์ งานอดิเรกส่วนใหญ่ให้อิสระกับความคิด เป็นพื้นที่ในการทดลองสิ่งใหม่ๆ และงานอดิเรกชนิดที่ต้องออกกำลัง ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพทางร่างกายไปในตัวด้วย

 

2. พบปะสังสรรค์กับเพื่อน

การรักษาสมดุลระหว่างการงานกับสังคมเป็นสิ่งสำคัญ มีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การพบปะสังสรรค์กับเพื่อนยังช่วยเติมความรู้ให้กับเราได้ด้วย เนื่องจากบ่อยครั้งการทำงานอย่างเดียวทำให้เรามองไม่เห็นมุมมองด้านอื่นๆ ของชีวิต การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับคนอื่นๆ อย่างเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงาน จะทำให้เราได้เห็นแง่มุมที่เคยมองข้าม การพบปะผู้คนจึงช่วยจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตและการทำงานของเราได้

 

3. เขียน To Do List

เวลาในหนึ่งวันมีจำกัด แต่สิ่งที่ต้องทำมีมากมายเหลือเกิน เราจึงควรออกแบบการใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หนึ่งในเทคนิคการบริหารเวลาง่ายๆ คือการทำ To Do List เพียงจดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันลงไป เรียงลำดับความสำคัญสิ่งที่จะต้องทำก่อนหลัง ฟังดูง่ายๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่การทำเช่นนี้จะเผยให้เห็นกิจกรรมในหนึ่งวัน ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาต่อได้ว่าเรื่องใดมีความจำเป็นและเรื่องใดที่สามารถตัดออกได้

ทั้งนี้หัวใจของการทำ To Do List คือการทำตามแผนที่วางไว้อย่างมีวินัย แล้วคุณจะพบว่าภารกิจหลายสิบ หลายร้อยอย่างที่เคยวุ่นวาย ได้ถูกจัดการด้วย To Do List แถมยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการที่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ทำได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงกับงานอื่นๆ

 

4. ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง

คุณเดินเล่นครั้งสุดท้ายเมื่อไร? การออกเดินเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายนอกจากจะช่วยผ่อนคลายเราจากความเครียดแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับผู้คนที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน เพราะเป็นโอกาสอันดีที่ให้เราได้ยืดเส้นยืดสาย ขยับร่างกายหลายๆ ส่วน การเดินเล่นช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีซึ่งช่วยให้เราสดชื่นมากขึ้น

นอกจากนี้ การออกไปเดินเล่นเป็นการเติม Input ชั้นเยี่ยม เพราะระหว่างทางจะมีหลายสิ่งหลายอย่างให้เราได้สังเกต ทั้งวิถีของผู้คน ธรรมชาติ หรือแม้แต่ป้ายโฆษณา ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลที่จะติดตัวเราไปใช้ในการสร้างสรรค์ได้ หรืออย่างน้อยที่สุด การเดินเป็นการทำความรู้จักกับพื้นที่ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา จึงไม่น่าแปลกที่คนทำงานที่ต้องใช้ความคิดหลายคนชื่นชอบการออกไปเดิน เพราะมันช่วยกระตุ้นความสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี

 

5. ยืด เสริมประสิทธิภาพแก่ร่างกาย

เมื่อนึกถึงการผ่อนคลาย เราอาจจะเห็นภาพสปาสักแห่งที่มีกลิ่นอะโรมาผ่อนคลายสุดฤทธิ์ หรือกิจกรรมเล็กๆ อย่างการทำเล็บก็น่าสนใจไม่น้อย แต่หากพูดถึงกิจกรรมที่ทั้งช่วยผ่อนคลายและยกระดับประสิทธิภาพให้กับร่างกายด้วย การยืดคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด

Stretching หรือการยืด คือการหมุน บิด ดัด กล้ามเนื้อที่ตึงหรือบาดเจ็บให้ผ่อนคลาย ทั้งยังช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ทำให้เราเคลื่อนไหวได้สะดวกไม่ติดขัด โดยเฉพาะกับคนที่ต้องนั่งทำงานทั้งวันที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลัง คอ และไหล่ ประโยชน์ของการยืดจึงมีทั้งความสดชื่นและผ่อนคลายของร่างกาย และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่มากขึ้นด้วย