เจ็บอย่าทน! เมื่อเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ

 

No pain, No gain ประโยคนี้ก็มีส่วนจริงไม่น้อย แต่อย่าเพิ่งเชื่อหมดใจ ไม่ใช่ทุกความเจ็บจะกลายเป็นผลดีกับเราได้ทุกครั้งเสมอไป ไม่ว่าคุณจะเป็นนักปั่นหรือนักวิ่ง เมื่อเราใช้กล้ามเนื้อถึงขีดจำกัดของมัน อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อก็จะเริ่มถามหา อาจเป็นได้ทั้งปวดกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย หรืออาการปวดระบมหลังนวด ซึ่งเรามักจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันอาจจะสร้างความบอบช้ำให้กับกล้ามเนื้อเราในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว

ลองจินตนาการสภาพตื่นนอนใหม่ๆ แต่ต้องทรมานกับอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเเทบจะยกตัวไม่ขึ้น เพียงแค่คิดก็ทรมานแล้ว ทางที่ดีเราจึงควรหมั่นสังเกตตัวเองเป็นประจำ และเมื่อมีอาการปวด ตึง เกร็ง ก็อย่าปล่อยเอาไว้ ให้รีบรักษาดูแลด้วยวิธีที่เราเอามาฝาก

 

1.นอนพัก ขยับส่วนที่เจ็บให้น้อยลง

เวลาที่เราปวดเนื้อเมื่อยตัว ก็อยากจะนั่งเฉยๆ มากกว่าเดินอยู่แล้ว แต่จริงๆ การนั่งอยู่เฉยๆ นานๆ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการยึดได้ เราควรจะยืดและบริหารกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดความตึงที่เกิดขึ้นซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ นอกจากนี้การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะอาการปวดกล้ามเนื้อนั้นเกิดจากการบาดเจ็บภายในกล้ามเนื้อซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษา

 

 

 

2.น้ำแตงโมช่วยได้

นี่เรื่องจริงไม่ได้ล้อเล่น จากการวิจัย ของ Journal of Agriculture and Food Chemistry พบว่าคนที่ดื่มน้ำเเตงโมก่อนออกกำลังกาย จะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อน้อยลงในวันถัดไป เพราะเเตงโมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้สารอาหาร และออกซิเจน ลำเลียงไปส่งกล้ามเนื้อได้มากขึ้น จึงลดอาการปวดกล้ามเนื้อได้ดี แต่ถ้าหาน้ำเเตงโมไม่ได้ก็ลองดูน้ำเชอร์รี่ บีทรูท เเละน้ำส้มแทน ซึ่งมีสรรพคุณคล้ายๆ กัน

 

 

 

3.ใช้เทคนิคทางกายภาพ

การยืดเหยียดคือวิธีที่จะช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อได้ดีที่สุด ฟื้นฟูให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ มีความยืดหยุ่นกลับมา และเพิ่มความแข็งแรงทนทานต่องานในชีวิตประจำวันต่างๆ การบริหาร ยืด คลายกล้ามเนื้อ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ซึ่งส่งผลต่อในเรื่องของการลำเลียงอาหารเเละของเสีย ขณะเดียวกันก็จะช่วยคลายปมกล้ามเนื้อ (Trigger point) ซึ่งจะต้องอาศัยผู้ที่มีความชำนาญจึงจะได้ผล อย่างนักกายภาพของ Stretch me ที่ได้รับการฝึกอบรมมาโดยเฉพาะ